
รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา และอุปนายกคนที่ 1 ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมชูปถัมภ์ (วสท.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาและกรรมการควบคุมการก่อสร้างอาคารเรียนนวัตกรรมต้นแบบให้ 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพานพิทยาคม โรงเรียนแม่ลาววิทยาคม โรงเรียนโป่งแพร่วิทยา และโรงเรียนธารทองวิทยา ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่สามารถใช้ในการเรียนการสอนได้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระกรุณาธิคุณ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ทดแทนหลังเดิมที่เสียหายจากวิกฤติภัยพิบัติแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้มีพระกระแสรับสั่งให้ วสท. ออกแบบ และก่อสร้างโรงเรียนต้นแบบ โดยการออกแบบ และก่อสร้าง เพื่อรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวสำหรับอาคารโครงสร้างเหล็ก และอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กตามลำดับ
รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก เผยว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วสท. พร้อมทีมคณะผู้บริหารของ วสท. ได้นำคณะบุคคลน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายวัสดุ เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารเรียนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างอาคารเรียนขึ้น ทดแทนอาคารเดิมแก่โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้ง 4 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จากนั้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก ซึ่งเป็นกรรมการควบคุมงานก่อสร้างอาคารเรียนต้านแผ่นดินไหว 4 แห่ง พร้อมด้วย รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท. ซึ่งเป็นกรรมการตรวจการจ้าง จึงได้เข้าสำรวจความคืบหน้าอาคารเรียนพระราชทานต้านแผ่นดินไหว จ.เชียงราย ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าถึง 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว “งานก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ทดแทนหลังเดิมนั้น ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนในด้านวิศวกรรมแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ต้องทำและสำคัญคือ การกำกับดูแลให้งานก่อสร้างเป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนดไว้อย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน เนื่องด้วยโครงการฯ นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เองมาสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนให้กับทั้ง 4 โรงเรียน จำนวนกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นผู้เข้ามารับผิดชอบโครงการนี้ จึงตระหนักถึงความรับผิดชอบที่สูงมาก แม้คณะทีมงานต้องเดินทางไกลไปยังอำเภอต่างๆ ในจังหวัดเชียงรายบ่อยครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลามาก แต่เป็นทุกคนต่างเต็มใจ ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้ และปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด ที่ได้รับโอกาสในการนำความรู้ความสามารถ และประสบการณ์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม” รศ.ดร.วัชรินทร์ กล่าว



